Advertisement

คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย

0
811
คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย
คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย

Advertisement

Advertisement

คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย

คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย
คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย
คุรุสภาเตรียมแจ้งความ ดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตฯ ตามกฎหมาย
ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเพจเฟซบุ๊ก ชุมชนข่าวขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 กรณี “ผู้ปกครองร้องเรียนลูกหลานได้รับเงินปัจจัยพื้นฐาน 500 บาท จากกองทุนนักเรียนยากจน แต่ทางโรงเรียนไม่เคยให้เงินทุนดังกล่าว ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ชี้แจงว่านำเงินไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน ชุดกีฬา แจกทั้งโรงเรียน ตามระเบียบที่สามารถทำได้ เพื่อถัวเฉลี่ยให้นักเรียนทุกคนได้รับเท่ากัน ซึ่งยอมรับว่าใช้เงินผิดประเภท” นั้น
จากการสืบข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากหน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาดังกล่าว และตรวจสอบข้อมูลทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา รายดังกล่าวแล้ว พบว่า เป็นผู้บริหารสถานศึกษาที่ขาดการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2567 และไม่พบข้อมูลการดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแต่อย่างใด
​เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่ออีกว่า กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 43 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติสภาครูฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ จึงได้มอบหมายให้สำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารสถานศึกษาดังกล่าว คู่ขนานกับการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
​“ดิฉันขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครูอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบสถานะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบวันหมดอายุใบอนุญาตฯ ของตนเอง และยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตฯ ได้ภายใน 180 วันก่อนวันหมดอายุ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ KSP Self – Service หรือเว็บไซต์ของคุรุสภา แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกในการต่ออายุใบอนุญาตฯ ซึ่งจะช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่าย และการเดินทางของผู้ประกอบวิชาชีพทุกคน ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. หากมีข้อสงสัยในด้านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภา ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว
ที่มา : คุรุสภา